วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

WEEK 7 : M-Commerce

M-Commerce คือการทำธุรกิจการซื้อขายผ่านมือถือ
-เนื่องจากเครื่องมือถือเป็นสิ่งใกล้ตัว ประชาชนมีกันทุกคน
-ไม่ต้องง้อ PC อีกต่อไป
-เนื่องจาก Culture เปลี่ยนแปลงไป ต้องการความรวดเร็ว ทุกคนชอบเข้าสังคม ต้องการ chat
-มีการพัฒนา Bandwidth เช่น 3G & 3.5G เพื่อจะขาย content ซื้อกำไรมากกว่า
-Chip หรือ processor ต่างๆ พัฒนาได้เร็วขึ้น ประหยัดพลังงาน
-มีการ Provide service มากขึ้น เรีนกว่า service economy เป็นเรื่องของการใช้สมองมากขึ้น

การประยุกต์ใช้
-           Mobile Banking
-           Shopping
-           Information based service
-           Auction
-           Travel information Booking

Mobile computing infrastructure
WAP – Wireless Application Protocol เพื่อขยายบริการอินเตอร์เน็ตบนมือถือ PDA ต่างๆ
พยามตัด Flash ทิ้ง โดยใช้ HTML WML ขึ้นมาแทน ใช้ภาษาปกติ
WiMax สามารถส่งสัญญาณ Wi-fi ไปทั่วเป็นระดับเมือง

 ข้อจำกัดของ Mobile computing
คสามปลอดภัย
ความน่าเชื่อถือของการใฝช้เทคโนโลยี
Presentation
Mobile Robot
หุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะ ทำงานแทนคนเช่นการสำรวจ ทางการแพทย์ เพื่อเล่นมนุษย์ สำรวจดวงจันทร์ เป็นต้น

ประเภท
Fixed Robot -
Mobile Robot – โครงสร้างขนาดเล็ก เคลื่อนไหวง่าย ใช้ล้อ รางเป็นตัวทำให้เคลื่อนที่แนวราบได้ เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์มากขึ้น โดยเพิ่มขา เช่น Hajime Robot

Virtual World
ตอบสนองความต้องการใช้พร้อมกันได้ โดยผ่านเครือข่าย
โดยใช้ภาพในการนำเสนอ
มีการตอบสนองทันที
Interactive เปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆได้ทันที
เป็นการสนับสนุนการรวมกลุ่มในโลกเสือนจริง

จุดประสงค์คือใช้สำหรับการเล่นเกมส์ ผ่าน computer หรือ Virtual world website ที่เปิดโอกาสให้คนได้เข้ามาอยู่รวมกลุ่ม เช่น clubpenquin.com , secondlife.com เป็นต้น

E-book Reader
สามารถอ่านได้ทั้ง PDF DOC MP
มีจอแสดงผล 2 แบบ คือ LCD EInk ทำให้สายตาไม่ล้า
ข้อดี
 พกพาสะดวกในการอ่าน
ลดการใช้กระดาษ
นักเขียนสามารถแสดงผลงาน ขายผลงานได้ง่ายขึ้น
การแข่งขันสูงขึ้น เป็นปนะโยชน์ต่อผู้อ่าน
ไม่ต่องไปร้าหนังสือ
ข้อเสีย
ยังไม่แพรหลาย
อายุการใช้งานสั้น
ยังอ่านภาษาไทยไม่ค่อยได้





วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

WEEK 6 : E-business and E-Commerce

E-business and E-Commerce
Dell >> สร้าง Dell.com build to order โดยคู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้เลย เนื่องจาก Dell ใช้ internet เข้ามาเป็นช่องทางในการขาย ในขณะที่คนอื่นขายผ่านทางเดิมๆ ต่อมาราคาตกเพราะคู่แข่งเยอะ ดังนั้นจึงต้องขายให้ได้จำนวนมาก โดยมี customer service อยู่ที่ India
E Bay >> เนื่องจากเป็นการแข่งกัน bid ดังนั้นจะขายได้ราคาที่สูงเนื่องจากคนมันต่อต้องการเอาชนะ
Amazon >> หนังสือมี stock ใช้กลยุทธ์ long tail คือ top 100 ก็มีประมาณ 90% ในขณะที่10% ก็จะมีคนต้องการน้อย แต่ก็ยังขายได้ (King of E-tailing)
Click & Mortar VS Brick& Mortar
ต่างกันตรงที่ Click & Mortar มีทั้ง online and offline ในขณะที่ Brick& Mortar มีอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
CRAITSlist.com >> เป็น web ที่ใช้บริการได้ free โดยใช้สำหรับการแลกเปลี่ยน ซื้อของได้
API >> application programming interface เป็นการ share กัน ระหว่างบริษัท ให้คนช่วยกันพัฒนา app แล้วก็ขายในราคาถูก เช่น iphone กับ 4sq เป็นต้น
ข้อดีของ E-Commerce
-          ติดต่อลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น
-          ขยายฐานลูกค้าได้ทั่วโลก เพิ่มรายได้
-          ช่วยให้ทำธุรกรรมได้ที่บ้าน เจอครอบครัวมากขึ้น ไม่ต้องเดินทาง ลดโลกร้อน
ข้อจำกัดของ E-Commerce
-          Standard อาจจะไม่เหมือนกัน browser ที่ support ไม่เหมือนกัน
-          ไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร เพราะ hacker เยอะมาก

Social commerce/ social shopping
เป็นแนวคิดที่ว่าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ก็ต้องมีการปรึกษาก่อน เช่นเราเชื่อเพื่อนมากกว่า ดังนั้นจึงเกิด idea ที่ว่าถ้ามีรูปเพื่อนถ่ายกับสินค้านั้นๆ แล้วก็สามารถ link ไปดูข้อมูลสินค้า ซื้อสินค้าได้เลย (ในอนาคต facebook อาจจะมี)
Blogging and Wiki เกี่ยวข้องกับ E-commerce
E-Auction ประมูล เช่น Ubid , Ebay เป็นต้น
E-Classifieds ซื้อได้เลย ไม่ต้อง bid เช่น Half.com
Bartering and negotiation เช่น Swap.com
 B2B auctions
Taradb2b.com
Electronic Storefronts มีทั้งขายที่ห้างและขาย online ข้อดีก็คือได้หลายช่องทาง แต่ก็ต้องมี manager หลายคนคอยดูแลเสมอ
 Customer Service online เช่น AIS
Electronic Malls สามารถฝากขายสินค้าได้ ทำให้เหมือนผู้บริโภคไปเดินห้างของจริง
Online Job market เช่น Dice JobCentral Monster เป็นต้น
Travel Services เช่น จองตั๋วเครื่องบิน รถเช่า โรงแรม เช่น HotelThailand.com
Ethical and legal Issue
-          ต้องพิจารณารูปกุญแจ
-          ดูว่ามีคนซื้อบ้างหรือไม่
-          ดู review ว่าเค้าว่ายังไงกันดูจาก Consumerlist.com

Presentation
Cloud Computing >> เป็นแนวคิดในการบริการด้าน IT รูปแบบใหม่ เป็นแนวคิดที่ทำให้สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายตามที่ต้องการได้อย่างสะดวก โดยแนวคิดนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว
Cloud Computing มีลักษณะ 5 อย่างดังต่อไปนี้
1.      On-demand service
2.      Broad Network access
3.      Resource pooling
4.      Rapid Elasticity
5.      Measured Service

ประโยชน์ของ Cloud Computing
1.      Cost Saving
2.      Scalability
3.      Access to top-end IT capabilities
4.      Focusing on core competencies
5.      Efficient asset utilization
6.      Privacy and Securities
7.      Non-standard platform
8.      Reliability
9.      Portability

Health Informatics >> คือการนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร ใช้พัฒนาข้อมูลเกี่ยวกับสาธารณสุข และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ
โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2. ด้านสุขภาพ ตั้งแต่เกิดจนตาย
3.ทรัพยากรบุคลของคนที่ทำงานด้านสาธารณสุข
4.กิจกรรมสาธารณสุข
5.บริหารจัดการ

หรือแบ่งเป็น 3 ประเภทตามภารกิจได้แก่
1.สาธารณสุขเพื่อการบริหาร
2.สาธารณสุขเพื่อการบริการ 
3.สาธารณสุขเพื่อการวิชาการ

Web  2.0 >>  คือ Website ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีลักษณะสำคัญ 7 ประการ คือ
1.       Network as platform สามารถใช้งานผ่าน Web Browser ได้
2.       ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น 
3.       ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่แค่อ่านได้อย่างเดียว
4.       มี User interface ที่ดีขึ้น
5.       สามารถโต้ตอบกันได้
6.       มีความรวดเร็วและง่ายในการส่งข้อมูลมากขึ้น
7.       มีการเอา Function ใช้งานจากหลายเว็บรวมเข้าด้วยกัน

เปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0
           Web 1.0 จะเป็นการสื่อสารทางเดียว คือจากเจ้าของเว็ปไซต์ซึ่งเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใส่ข้อมูลลงในเว็บนั้นได้ แต่ Web 2.0 ทั้งเจ้าของและผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้ โดยเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เว็บทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น AJAX ทำให้เว็ปทำงานเร็วขึ้น, SaaS(Software as service) เป็นซอฟแวร์บนเว็บที่ให้บริการโดยไม่ต้องซื้อ, RSS เป็นการอัพเดต content,ข้อมูลใหม่ๆ และตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก YouTube, MySpace, Facebook, Wikipedia เป็นต้น

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

WEEK 5 : Information Technology Economics

Case : California State Automobile Association

เนื่องจาก IT infrastructure ถึงจุดอิ่มตัวดังนั้นจึงทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับคู่ค้าได้อย่างประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงได้ทารเปลี่ยนแปลงโดยนำ web farms มาใช้แทน โดยคาดว่าผลลัพธ์จะเกิดขึ้นทั้งในรูปของตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน เช่นคาดว่าภายใน 1 ปี โดยน่าจะได้ผลตอบแทนที่ 7.5 ล้านดอลล่าร์ ช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้น ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้นจากการส่งของเร็วขึ้น และจากการ Projected Cost and benefits จะเห็นได้ว่าปีแรกๆจะเป็นการลงทุนและจะเริ่มมีกำไรในปีถัดๆมา โดยมี NPV เป็นบวกอยู่ที่ประมาณ 21 ล้านดอลล่าร์

Moore’s Law
เนื่องจากการคาดการพบว่าความสามารถ power of computer chip จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 18-24 เดือน ดังนั้นลูกค้าจึงมีโอกาสที่องค์กรจะซื้อของดีในราคาที่ถูกมากขึ้น เนื่องจากราคาจะปรับลดลงอย่างรวดเร็ว  จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทที่ได้จากผลิตภัณฑ์(Price to performance ratio)นั้นลดลงแบบ exponential ซึ่งแสดงหเห็นว่าเทคโนโลยีมาเร็วไปเร็ว พอจุดอิ่มตัว ต้องเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่นและเป็นเช่นนี้ไปตลอด
  
Productivity Paradox
ถือได้ว่าเป็นความขัดแย้งกันระหว่างความสามารถของ IT ที่อัตราการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราการพัฒนาของสิ่งอื่นๆ ไม่รวดเร็วเท่า เช่นผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนใน IT ที่มีอัตราการพัฒนาการที่ช้ากว่า ทั้งนี้เพราะสาเหตุที่ว่าการลงทุนใน IT วัดยากและจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในทันที หรือการลงทุน IT อาจไปดึง Budget จากส่วนอื่นๆมาทำให้เสียโอกาสในการลงทุนด้านอื่น หรือการลงทุนใช้ต้นทุนที่สูงมากกว่าจะคืนทุนจึงนานหรืออาจไม่คุ้ม นอกจากนี้ยังอาจเป็นไปได้ว่ากฎต่างๆ อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ไปเป็นไปตามที่คาดหรือมีการพัฒนาไม่มากเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Productivity Paradox จะมีข้อเสียจำนวนมาก แต่เราก็ยังใช้ Productivity Paradox เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มผลิตผลได้ และเกิดผลทั้งทางตรง และทางอ้อมดังนี้
1.Direct Impact : ลงทุน IT แล้วส่งผลทันทีโดยตรง เช่น ลด Cost ในการติดต่อกับ Supplier ได้กำไร
2.Second Order Impact : ลงทุน IT แล้วได้รับผลในทางอ้อม เช่น ภาพลักษณ์ดีขึ้น  Market share เพิ่มขึ้น

Evaluating IT investments
โครงการที่สามารถลงทุนได้เลย อาจมีหลายเสาเหตุเช่น ใช้เงินลงทุนน้อย เป็น Infrastructure ถูกบังคับ มีข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจไม่เพียงพอ ไม่มีความเสี่ยง หรือใช้สร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรก็ต้องลงทุนเลย

แต่เนื่องจากการมีทรัพยาการที่จำกัด การจะลงทุนทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้  ดังนั้นการจะลงทุนในโครงการใดๆ จะต้องมีกระบวนการตัดสินใจ เริ่มตั้งแต่
  1. หาเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่เหมาะสม
  2. หามาตรวัดที่จะใช้วัด
  3. ประเมิน, ทำให้เข้าใจง่าย และบันทึกเป็นเอกสารไว้
  4. คำนวณทางเลือก ซึ่งอย่าลืมรวมการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วย
  5. สิ่งที่จะพัฒนาสนับสนุน Strategy ขององค์กรหรือไม่
  6. อย่า underestimate costs และ overestimate benefit
  7. และสุดท้ายแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ

สิ่งที่ต้องพิจารณาในการลงทุนโครงการใดโครงการหนึ่ง
1.       Costing IT Investment
·         Fix Cost
·         Transaction Cost :
§  Search  
§  Information การได้มาซึ่งข้อมูลต่างๆ เช่น ความต้องการของลูกค้า คามเข้าใจด้านกฎหมาย เป็นต้น
§  Negotiation ก่อนตกลงซื้อขายย่อมมีค่าใช้จ่ายในการติดต่อซื้อขาย เช่นต้นทุนการเช็คสินค้า ค่าเดินทาง เป็นต้น
§  Decision เพื่ออนุมัติการซื้อขาย ทั้งผู้ซื้อก็มีต้นทุนการหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อ ในขณะที่ผู้ขายก็ต้องตัดสินใจว่าจะขายลูกค้าคนไหนหรือตัดสินใจจะไม่ขาย
§  Monitoring การติดต่อว่าสินค้าอยู่ที่ไหนแล้ว จัดส่งเรียบร้อยหรื่อไม่ รวมถึงดูแลเรื่องบริการหลังการขายสินค้า

2.       Revenue Models generated by IT&Web
·         Sale รายได้หลักมาจากไหน คาดว่าจะได้เท่าไร
·         Transaction fees
·         Subscription fees
·         Advertising fees
·         Affiliate fees : จะต่างจาก Advertising fees โดยอาจขายสินค้าได้จากการเสียค่าเช่าพื้นที่ให้ link ไปจากหน้า web ที่เราไปเช่า อย่างเช่นหากเราเป็น  AGODA แล้วมีคนเข้าไปซื้อโดยผ่านจากหน้า web เรา เราก็จะได้เงินเป็นต้น

3. Cost & Benefit Analysis
·        Identifying & estimating all cost and benefits
·        Expressing these costs and benefits in common units (เป็นตัวเงิน)
Intangibles in economic feasibility
·        Intangible benefit  เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า ความจำเป็นในการพัฒนาความเชี่ยวชาญภายในองค์กร
·        Intangible cost เช่น Reduced employee morale, lost productivity, lost customers or sales

Cash Flow Forecasting  ประเมินในลักษณะเป็นตัวเงิน
Cost-Benefit Evaluation Techniques
1.       Net profit ข้อเสียงคือไม่คำนึงถึงผลตอบแทนแต่ละปี ไม่คำนึงถึงค่าเงินตามเวลา
2.       Payback Period ไม่มีว่ามี Net Profit เท่าไร
3.       Return on investment (ROI) ไม่คำนึงถึงค่าเงินตามเวลา
4.       Net present value(NPV) ความยากอยู่ตรงที่จะเลือก discount rate เท่าไร ต้องดูต้นทุนการได้มาซึ่งเงินทุนนั้น ข้อเยคือเทียบระหว่างโครงการไม่ได้ เป็นคนละฐาน
5.       Interest rate of return (IRR)  มองหาจุดที่ NPVเท่ากับ 0 วัด Profitability ได้ดีกว่า NPV เทียบกันได้

Measuring ที่สามารถเลือกใช้ในการประเมินการเลือก ITดังนี้
·        Business case ทำการประเมินทางเลือกของ IT เน้นให้เห็นมุมมองหลายแง่มุม
·        Total cost of ownership คำนวณต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งต้นทุนแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ acquisition cost, operation cost และ control cost
·        Objective Benchmarks เทียบกับคนที่ดีที่สุด, คนที่อยู่ตรงกลาง และคนที่อยู่ท้ายสุดของอุตสาหกรรม
·        Balanced scorecard method มองผลทางด้านอื่นนอกจากการเงิน
1.       Financial
2.       Customer
3.       Internal Process
4.       Learning and Growth skill

Where costs of IT investment go?
มทางเลือก 2 ทางคือคิดเป็น Overhead cost หรือ chargeback ก็ได้ แต่ chargeback จะดีกว่า

Failure & Runaway Project
หากทำ cost benefits analysis ไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหาทางเศรษฐกิจก็อาจทำให้โครงการที่ลงทุนไปไม่ประสบความสำเร็จ

Managerial Issues
เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงต้องมีการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเราต้องพิจารณาทั้ง tangible benefit และ intangible benefit คือเปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับด้านการเงินเพียงอย่างเดียว มาเป็นให้ความสำคัญด้านคุณภาพด้วย  รวมถึงต้องมีการวัดอย่างสม่ำเสมอว่าสิ่งที่ใช้อยู่นั้นยังทำงานได้เหมาะสมกับองค์กรหรือไม่ เพราะเทคโนโลยีใหม่อาจไม่เหมาะสมส่องที่องค์กรมีอยู่เดิมแล้ว ต้องมองหาวิธีในการดึงดูดให้ผู้ใช้เปลี่ยนพฤติกรรม ต้องวิเคราะห์ทุกความเสี่ยงที่เป็นไปได้และโอกาสที่จะเกิดขึ้นรวมทั้งระดับความเสียหาย และต้องเลือกใช้เครื่องมือในการวัดผล IT investment ที่เหมาะสมหรืออาจตั้ง committee ขึ้นมาช่วยอีกทางหนึ่ง